วินโดวส์ 8
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
![]() | |
อินเทอร์เฟซเริ่มต้นของวินโดวส์ 8 | |
ผู้พัฒนา | ไมโครซอฟท์ |
---|---|
ตระกูลระบบปฏิบัติการ | ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ |
เผยแพร่สู่ กระบวนการผลิต | 26 ตุลาคม 2012 |
รุ่นล่าสุด | July 2023 update rollup (6.2.9200.24374) / 11 กรกฎาคม 2023[1] |
วิธีการอัปเดต | วินโดวส์ อัปเดต |
แพลตฟอร์ม | IA-32, x86-64 และ ARM[2] |
ชนิดเคอร์เนล | ไฮบริด เคอร์เนล |
สัญญาอนุญาต | ซอฟต์แวร์กรรมสิทธิ์ ซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์ |
รุ่นก่อนหน้า | วินโดวส์ 7 (2009) |
รุ่นถัดไป | วินโดวส์ 8.1 (2013) วินโดวส์ 10 (2015) |
เว็บไซต์ทางการ | วินโดวส์ 8 (เก็บถาวรไว้ที่เวย์แบ็กแมชชีน) |
สถานะการสนับสนุน | |
รุ่นทั้งหมด (ยกเว้นวินโดวส์ เอ็มเบ็ดเด็ด 8 สแตนดาร์ดและคอมพิวเตอร์ที่มีการติดตั้งอัปเดตวินโดวส์ 8.1):
วินโดวส์ เอ็มเบ็ดเด็ด 8 สแตนดาร์ด: |
วินโดวส์ 8 (อังกฤษ: Windows 8) เป็นระบบปฏิบัติการวินโดวส์เอ็นทีรุ่นหลักที่พัฒนาโดยไมโครซอฟท์โดยเปิดตัวสู่การผลิตในวันที่ 1 สิงหาคม 2012 และเปิดให้ดาวน์โหลดผ่านเอ็มดีเอ็นและเทคเน็ต ในวันที่ 15 สิงหาคม 2012[5] และวางจำหน่ายสำหรับขายปลีกในวันที่ 26 ตุลาคม ปีเดียวกัน[6]
วินโดวส์ 8 ได้ทำการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้กับแพลตฟอร์มและส่วนต่อประสานกับผู้ใช้ของระบบปฏิบัติการ โดยตั้งใจที่จะปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้บนแท็บเล็ต ซึ่งวินโดวส์แข่งขันกับระบบปฏิบัติการมือถือ เช่นแอนดรอยด์ และ ไอโอเอส[7] โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้รวมถึงเชลล์และหน้าจอเริ่มต้นของวินโดวส์ที่ปรับให้เหมาะกับการสัมผัสตามภาษาการออกแบบเมโทร ของไมโครซอฟท์ การผสานรวมกับบริการออนไลน์วินโดวส์สโตร์ และแป้นพิมพ์ลัดใหม่สำหรับภาพหน้าจอ[8] คุณลักษณะหลายประการเหล่านี้ได้รับการดัดแปลงมาจากวินโดวส์โฟน และการพัฒนาของวินโดวส์ 8 มีความคล้ายคลึงกับการพัฒนาวินโดวส์โฟน 8[9] วินโดวส์ 8ยังเพิ่มการสนับสนุนยูเอสบี 3.0 แอดวานซ์ฟอร์แมต การสื่อสารสนามใกล้ และการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ รวมถึงหน้าจอล็อกใหม่พร้อมนาฬิกาและการแจ้งเตือน มีการแนะนำคุณสมบัติความปลอดภัยเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสในตัว การผสานรวมกับการกรองฟิชชิ่งของไมโครซอฟต์ สมาร์ทสกรีน และการรองรับซีเคียวบูตบนอุปกรณ์ที่รองรับ นับเป็นเวอร์ชันวินโดวส์แรกที่รองรับสถาปัตยกรรมอาร์มภายใต้แบรนด์วินโดวส์อาร์ที เวอร์ชันนี้ไม่รองรับหน่วยประมวลผลกลางที่ไม่มีฟิสิคัลแอดเดรสเอ็กซ์เทนชัน (PAE) สตรีมมิงซิมด์เอ็กซ์เทนชันส์ 2 (SSE2) และเอ็นเอ็กซ์ (NX)
วินโดวส์ 8 ได้รับกระแสตอบรับในเชิงลบ แม้ว่าการตอบรับต่อการปรับปรุงประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และการรองรับอุปกรณ์หน้าจอสัมผัสที่ดีขึ้นจะเป็นไปในเชิงบวก แต่ส่วนต่อประสานกับผู้ใช้ใหม่กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าสร้างความสับสนและไม่ใช้งานง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้กับคีย์บอร์ดและเมาส์แทนหน้าจอสัมผัส แม้จะมีข้อบกพร่องเหล่านี้ แต่ใบอนุญาตก็ขายได้ 60 ล้านใบจนถึงเดือนมกราคม 2013 รวมถึงการอัปเกรดและการขายให้กับโออีเอ็มสำหรับคอมพิวเตอร์ใหม่[10]
วินโดวส์ 8 ถูกแทนที่ด้วยวินโดวส์ 8.1 ในเดือนตุลาคม 2013 ซึ่งได้แก้ไขประเด็นบางประการของวินโดวส์ 8 ที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากนักวิจารณ์และผู้ใช้รุ่นแรก และยังได้รวมการปรับปรุงต่าง ๆ ไว้ด้วย[11] การสนับสนุนสำหรับรุ่นอาร์ทีเอ็ม (RTM) ของวินโดวส์ 8 สิ้นสุดลงในวันที่ 12 มกราคม 2016 ยกเว้นผู้ใช้วินโดวส์ เอ็มเบ็ดเด็ด 8 สแตนดาร์ด ผู้ใช้ทุกคนจำเป็นต้องติดตั้งอัปเดตเป็นวินโดวส์ 8.1 การสนับสนุนระยะหลักสำหรับวินโดวส์ เอ็มเบ็ดเด็ด 8 สแตนดาร์ด สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2018 และการขยายเวลาสนับสนุนสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2023
คุณสมบัติใหม่
[แก้]- เป็น Tablet-Friendly หรือใช้กับอุปกรณ์จอสัมผัสได้เป็นอย่างดีมากก
- มีการใช้รูปแบบโมเดิร์นซึ่งตัวไอคอนจะมีลักษณะเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมเรียกว่าไทล์
- ฟื้นฟูและคืนค่าโดยฟื้นฟูจะลบการตั้งค่าและทุกโปรแกรมที่ติดตั้งไว้หมด แต่ไม่ทำอะไรกับไฟล์ข้อมูล ส่วนคืนค่าจะทำให้ตัววินโดวส์มีลักษณะเหมือนตอนเพิ่งติดตั้งเสร็จ
- วินโดวส์สโตร์จะมีไว้สำหรับแจกและขายโปรแกรม
- มีโปรแกรมสำหรับใช้เครือข่ายทางสังคมอย่าง เฟซบุ๊ก กับ ทวิตเตอร์โดยเฉพาะ
- มีโปรแกรมป้องกันไวรัสติดมาด้วย
- วินโดวส์ทูโกที่ทำให้วินโดวส์ 8 สามารถสร้างแฟรชไดรว์ที่บูตวินโดวส์ได้
- สามารถทำงานในระบบประมวลผลแบบ ARM ได้
สิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลง
[แก้]ในตัว Windows 8 มีการเปลี่ยนแปลงอยู่หลายอย่างเช่น
- ปุ่ม "เริ่ม" ที่ใน Windows รุ่นก่อน ๆ จะใช้เพื่อเปิด เมนูเริ่ม ในวินโดวส์ 8จะถูกตัดออกไปและแทนที่ด้วยหน้าจอเริ่มต้น (Start Screen) ต่อมาได้นำกลับมาใน Windows 8.1 เพราะผู้คนไม่ค่อยพึงพอใจสักเท่าไหร่นัก
- สำหรับ Windows Explorer จะใช้ริบบอนอินเทอร์เฟซซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกับที่ใช้ใน ไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ 2013
- อินเทอร์เน็ตเอกซ์พลอเรอร์ 10 ในรูปแบบโมเดิร์นจะไม่สามารถลง [ปลั๊กอิน] ใด ๆ ได้
- Windows 8 สามารถเปิดเครื่องหรือเข้าสู่ระบบได้ดีและเร็วกว่า Windows 7
อ้างอิง
[แก้]- ↑ http://www.theverge.com/2012/8/1/3188541/windows-8-rtm-development-complete
- ↑ "Microsoft Announces Support of System on a Chip Architectures From Intel, AMD, and ARM for Next Version of Windows". Microsoft. 5 January 2011. สืบค้นเมื่อ 14 October 2011.
- ↑ "Microsoft Support Lifecycle, Windows 8". Microsoft. สืบค้นเมื่อ January 21, 2023.
- ↑ 4.0 4.1 "Product lifecycle Windows 8 Embedded". support.microsoft.com. สืบค้นเมื่อ August 21, 2020.
- ↑ Rodgers, Evan (June 26, 2013). "Windows 8.1: a first look at what Microsoft is changing". The Verge. Vox Media. สืบค้นเมื่อ August 6, 2013.
- ↑ "Windows 8's delivery date: October 26". ZDNet. CBS Interactive. July 18, 2012. สืบค้นเมื่อ September 17, 2012.
- ↑ "Windows Reimagined". All Things Digital. Dow Jones & Company. สืบค้นเมื่อ October 21, 2012.
- ↑ Paul, Ian. "How to Take Screenshots in Windows 10, 8, and 7". Lifewire (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 7 April 2023.
- ↑ Staff, Ars (2012-11-16). "Windows Phone 8 review: Microsoft lays a foundation for success". Ars Technica (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2025-05-12.
- ↑ Foley, Mary Jo (January 8, 2013). "Microsoft: 60 million Windows 8 licenses sold to date". ZDNet. CBS Interactive. สืบค้นเมื่อ March 24, 2013.
- ↑ Waters, Richard (May 7, 2013). "Microsoft prepares rethink on Windows 8 flagship software". Financial Times.